วันพุธที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ดูแลริมฝีปากอย่างไรให้น่า>>>>>>จูบ


kiss, บิวตี้ทิป, BEAUTY, TIPS, ทิป, ความสวยความงาม, หล่อ, สวย, ริมฝีปาก, ปากแห้ง, บำรุงผิว

ไม่ใช่ผู้ชายเท่านั้นที่จะเป็นฝ่ายอดใจไม่ได้กับริมฝีปากอวบอิ่มชมพูระเรื่อของสาวๆ แต่ฝ่ายเดียว...สาวๆเขาก็อยากจะแจก kiss ให้กับชายหนุ่มปากอิ่มๆ สีชมพู ดูมีสุขภาพดีเช่นกัน

 คงไม่ต้องบอกใช่ไหมว่า ปากที่แห้ง ลอก จนแตกเป็นขุยนั้น มันจะทำอีกฝ่ายเสียอารมณ์ได้ขนาดไหน ดังนั้นพกผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไว้เถอะ จะได้ไม่ตกม้าตายตอนจบ

 เมื่อเรื่องดำเนินมาถึงบทสำคัญอย่างไรล่ะ

DIY : Do It Yourself บำรุงปากด้วยลิปแคร์ 
ขั้นตอน 

   1. ใช้ลิปแคร์แต้มที่ปากบน

   2. ทาให้ทั่วจากศูนย์กลางไปด้านข้าง

   3. เสร็จแล้วก็ย้ายมาทาปากล่างด้วยวิธีเดียวกัน

   4. เม้มปากไปมาเพื่อเกลี่ยให้เนื้อลิปเนียนทั่วเสมอกัน

   5. ถ้ารู้สึกว่าลิปมากเกินไปหรือมันวาวเกินเหตุ ก็ให้ใช้กระดาษทิชชูซับออก รู้ไหม เพื่อลดขั้นตอนที่ยุ่งยาก คุณสามารถใช้อายครีมมาทาที่ริมฝีปากได้ด้วยนะเพราะผิวบริเวณปากนั้นบอบบางและสูยเสียความชุ่มชื้นได้ง่ายไม่แพ้ดวงตา จะว่าไปอายครีมนั้นสามารถบำรุงริมฝีปากที่แห้งได้ดีกว่าลิปแคร์เสียด้วยซ้ำจึงเหมาะกับผู้ชายที่ไม่ค่อยดูแลปาก จนเกิดอาการลอกเป็นขุยมากๆ

อีกปัญหาหนึ่งเกี่ยวกับปากที่ผู้ชายมักมองข้าม
 ก็คือเรื่องของ กลิ่นปาก เพราะอาจจะอยู่กับกลิ่นปากของตัวเองมานานจนเคยชิน จึงไม่รู้ตัวว่ากำลังทรมานผู้อื่นรายวันอยู่อย่างร้ายกาจ


1.กลิ่นปากจากอาหาร เกิดจาก 

- การกินอาหารที่กลิ่นแรง หรือกินอาหารแล้วไม่บ้วนปากหรือแปรงฟัน ทำให้อาหารตกค้างในปาก บูดจนส่งกลิ่นเหม็น


ทางแก้ไข 

- ถ้าจะให้ดีสุดก็ควรจะแปรงฟันหลังอาหารแต่ละมื้อ แล้วตามด้วยน้ำยาบ้วนปาก หรือถ้าขี้เกียจก็บ้วนปากด้วยน้ำเปล่าสักหน่อย แล้วหาหมากฝรั่ง ลูกอม หรือผลิตภัณฑ์กำจัดกลิ่นปากมาใช้ก็พอจะแก้ได้ 

2.กลิ่นปากจากกรดน้ำย่อยทำปฏิกิริยากับแบคทีเรียในปาก ( ง่ายๆ ก็คืออาการน้ำลายบูดนั่นเอง ) เกิดจาก

 - ไม่กินอาหาร ( โดยเฉพาะตอนเช้าที่กลิ่นปากจะแรงอย่างบอกไม่ถูก เพราะน้ำย่อยสะสมมาทั้งคืน )

- ดื่มน้ำน้อยเกินไป

- เป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร เช่น โรคกระเพาะ ทำให้ระบบการหลั่งน้ำย่อยผิดปกติ

 ทางแก้ไข 

- กินอาหารเพื่อให้น้ำย่อยถูกใช้ไป - ดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อละลายน้ำย่อย - ปรึกษาแพทย์เพื่อแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ





ปกติ 390 บาท

พิเศษลดเหลือ 290 บาท

สอบถามโทร 085-9083178 วราพร

 

วันอังคารที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556

7 เรื่องที่คุณต้องรู้ ถ้าอยากทาปากแดงให้เกิดเริ่ดกว่าใคร !





          ปากแดงแรงฤทธิ์เป็นสัญลักษณ์ของสาวเปรี้ยวจี๊ด แต่การเปรี้ยวเผ็ดเข็ดฟันไปกับเรียวปากสีแดงนี้ใช่ว่าใครทาแล้วก็จะเกิดจะเริ่ดทุกคนนะจ๊ะ ลุคสวยสะเด็ดแบบนี้ก็ต้องมีเคล็ดลับพิเศษสักหน่อย กระปุกดอทคอมเลยขอบอก 7 ทริคทาปากแดงให้เริ่ดเกิดกว่าใคร ให้สาวเปรี้ยวอย่างคุณเท่านั้นฟังค่า

      
 1. เลือกสิ่งที่ใช่ แดงเฉดไหนที่ใช่คุณ

          เมื่อพูดถึงลิปสติกสีแดงก็มีแดงอยู่ตั้งหลายเฉด ตั้งแต่แดงสด แดงอมส้ม แดงอมชมพู แดงเจือน้ำเงิน แดงเหลือบน้ำตาล ฯลฯ เยอะแยะขนาดนี้คุณ ๆ อาจจะเลือกกันไม่ถูก ทริคง่าย ๆ ให้รู้ว่าแดงเฉดไหนที่ใช่คุณก็คือพิจารณาดูจากสีผิวของตัวเองนั่นเองค่ะ สาวผิวขาวกระจ่างไปกันได้ดีมาก ๆ กับสีแดงสดเจือไปทางน้ำเงินหรือแดงเฉดที่ไม่อมสีส้มเลย ส่วนที่ผิวเหลืองขึ้นและคนที่คล้ำลงมาอีกหน่อยให้เลือกสีแดงแบบอมส้มอมชมพูจึงจะดูดีมีวิตชีวา สำหรับสาวผิวเข้มไปเลยต้องลองสีแดงเจือม่วงหรือสีไวน์จะเข้ากันได้ที่สุด

          การสุ่มหาลิปสติกสีแดงเฉดที่ใช่สำหรับคุณอาจใช้เวลานานเป็นปี (จริง ๆ นะไม่ได้โม้) แต่ถ้าลองใช้ทริคนี้เข้าช่วยน่าจะทำให้คุณค้นพบสิ่งที่ใช่เฉดที่โดนสำหรับตัวองได้เร็วขึ้นนะจ๊ะ 

       2. ลิปไลน์เนอร์ เพื่อนคู่ใจยามทาปากแดง


          ลิปไลน์เนอร์อาจจะดูเป็นไอเทมโบร่ำโบราณที่คิดว่ามีแต่สาวรุ่นดึกเท่านั้นที่ใช้ แต่จะบอกให้ว่าการใช้ลิปไลน์เนอร์ยามทาลิปสติกสีแดงมันเข้ากันและเวิร์คมาก ๆ ขอเพียงแค่เลือกสีให้ถูกกันเท่านั้นเอง ลิปไลน์เนอร์จะช่วยเพิ่มความคมให้กับขอบเรียวปาก ทำให้ความเปรี้ยวของคุณเป๊ะสุด ๆ แถมยังช่วยล็อกไม่ให้ลิปสติกเลอะออกมานอกขอบปากได้ด้วยค่ะ

       3. แต่งตัวยังไงให้เข้ากับปากแดง ๆ

          การทาปากแดง ๆ จะดูเป็นสาวเปรี้ยวมั่นก็ได้ หรือจะดูกลายเป็นสาวที่แต่งตัวเยอะและจัดจนไม่น่าดูก็ได้เหมือนกัน จุดแบ่งของตรงนี้อยู่ที่การแต่งตัวของคุณนั่นเอง เพราะว่าสีแดงนั้นแรงอยู่แล้ว การแต่งตัวจึงไม่ควรแรงแข่งกับมันอีก ไม่อย่างนั้นจะดู "เยอะ" แน่ ๆ

          ชุดที่เข้ากับลิปสติกสีแดงกลับมีความเรียบง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ อย่างเดรสสีดำ สูทสีดำ หรือชุดเดรสงานราตรีก็ไปกันได้ดีกับสีแดงแทบทั้งหมด แต่ถ้าใครเป็นสาวเท่แล้วอยากเปรี้ยวด้วย ยีนส์กับแจ็คเก็ตหนังก็ยังดูเจิดกับลุคปากแดง ยิ่งไปกว่านั้นมันยังเข้ากันได้ดีเว่อร์ ๆ กับลายซาฟารี อย่างลายเสือ เสือดาว ม้าลาย ภายใต้ข้อแม้ว่าลายซาฟารีที่ว่าต้องไม่ชิ้นใหญ่เกินไป อย่างเป็นแค่ผ้าพันคอ กระเป่า แม้แต่กรอบแว่นตา ก็เข้ากันได้ดีกับลุคเรียวปากสีแดงอย่างไม่น่าเชื่อเลยค่ะ



       4. ห้ามปล่อยให้ลิปสติกเลอะฟันเด็ดขาด !

          ด้วยความที่ว่าลิปสติกสีแดงนั้นสังเกตเห็นได้ง่าย หากมันเลอะไปที่ฟันคุณล่ะก็ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนอื่น ๆ ก็ต้องสังเกตเห็นได้แน่ ๆ สาว ๆ หลายคนอาจมีอาการพารานอยด์ตลอดทั้งวันที่ทาลิปสติกสีแดง เพราะมัวกังวลว่ามันจะเลอะฟันหรือเปล่า งั้นลองให้วิธีนี้เป็นตัวช่วยของคุณดูนะคะ หลังจากทาลิปสติกแล้วซับปากสักครั้งเพื่อซับลิปส่วนที่เยิ้มออกไป จากนั้นให้อมนิ้วที่สะอาดหนึ่งนิ้ว หุบปาก แล้วรูดนิ้วออก สีแดงจากลิปสติกที่ติดอยู่ด้านในของริมฝีปากจะหลุดออกมาด้วย คราวนี้ก็รับรองว่าฟันของคุณจะไม่เปื้อนแน่นอน อ้อ ! เสร็จแล้วอย่าลืมล้างมือด้วยล่ะ

       5. ฟันขาวปิ๊งยิ่งขับเรียวปากให้สดสวย


          ก่อนที่คิดจะหยิบลิปสติกสีแดงมาทา ยิ้มยิงฟันดูตัวเองในกระจกก่อนว่าฟันของคุณขาวสดใสหรือยัง แม้เรียวปากแดงจะเริ่ดขนาดไหนก็คงดูไม่จืดเลยหากเมื่อคุณยิ้มมาแล้วเห็นฟันเหลือง ๆ หรือเป็นคราบจากการดื่มชากาแฟ เพราะฉะนั้นก็ขอให้ดูแลฟันให้ขาวสะอาดสดใสเข้าไว้อย่างสม่ำเสมอ นอกจากเพื่อทาปากสีแดง ๆ ได้สวยเจิดแบบไร้ที่ติแล้ว ก็ถือว่าทำเพื่อบุคลิกภาพของคุณด้วยนะคะ 

       6. ทาปากแดงแล้วห้ามแต่งชมพูนะ !


          ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม หากคุณเลือกจะทาลิปสติกสีแดงแล้วก็ไม่ควรที่จะนำมันไปมิกซ์กับเครื่องแต่งกายที่มีสีชมพู เพราะด้วยความที่เป็นโทนสีที่ใกล้กัน มันจะปะทะกันเองและทำให้ลุคนั้นของคุณดูเฟลไปเลยล่ะ อย่าเด็ดขาดนะจ๊ะ

       7. ปากแดงจะเริ่ดได้ ต้องแต่งส่วนที่เหลือของหน้าอ่อนกว่าปาก


          เรียวปากแดง ๆ ของคุณจะเจิดเฉิดฉายสุด ๆ ได้ก็เมื่อคุณแต่งส่วนอื่น ๆ ของใบหน้าให้เบาบางลง เลือกแต่งหน้าส่วนที่เหลือให้ดูนู้ดและเป็นธรรมชาติเข้าไว้ อย่างเลือกอายแชโดว์สีน้ำตาลอ่อนย่อมดูดีกว่าสีดำหรือสีม่วง ไม่หนักมือกับอายไลน์เนอร์แต่เน้นไปที่ขนตาแทน ปัดแก้มพอออกสีระเรื่อจะดูดีกว่าใช้บลัชออนสีแดงสุกปลั่งซึ่งจะไปแดงแข่งกับเรียวปาก ที่สำคัญก็อย่าลืมเตรียมผิวหน้าให้เรียบสวยเนียนใสด้วยรองพื้น หรือแป้งผสมรองพื้นดี ๆ กันด้วยนะจ๊ะ


         
คราวนี้ใครอยากทาปากแดงให้เริ่ดให้เจิดต้องไม่ลืมนำทริคทั้ง 7 ข้อนี้ไปใช้ รับรองว่าแดงแรงฤทธ์สวยแซบยิ่งกว่าใคร ๆ แน่นอนค่า



ปกติ 390 บาท

พิเศษลดเหลือ 290 บาท

สอบถามโทร 085-9083178 วราพร




วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2556

7 วิธีดูแลริมฝีปากแห้งเมื่อลมหนาวมา




สิ่งที่สำคัญที่สุดมักจะเป็นสิ่งที่ถูกมองข้ามมากที่สุด หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่าอะไรสำคัญ อะไรที่ถูกมองข้าม เชื่อว่าสาวๆ หลายๆ คนนั้นคงจะมัวยุ่งอยู่กับ ผิวพรรร หน้าตา เส้นผม จนลืมไปว่ามีอวัยวะที่สำคัญที่สุดแล้วบอบบางที่สุดอยู่กับตัว มัวแต่มองหาวิธีดูแลผิว ดูแลเส้นผม จนลืมมองหา วิธีดูแลริมฝีปากแห้ง ทราบไหมค่ะว่าปากนั้นเป็นจุดเด่นที่อยู่บนใบหน้าของเรา เพราะในขณะที่เวลาเราพูดๆ อยู่นั้นผู้ฟังเขาจะสังเกตที่ริมฝีปากเราทันที แล้วเมื่อริมฝีปากแห้งลอกและเป็นขุย อาจจะทำให้สาวๆ สูญเสียความมั่นใจไปเลยก็ได้นะค่ะ แต่วันนี้ได้เวลาที่สาวๆ จะต้องดูแลริมฝีปากบางๆ นั้นให้ดูสาวและอวบอิ่มกันได้แล้วนะค่ะ

อากาศแห้งทำให้เรียวปากขาดความชุ่มชื้นเมื่อเผชิญกับอากาศแห้งนานๆ เข้า ริมฝีปากก็เริ่มแตกวิธีที่จะช่วยได้คือกระตุ้นการผลัดผิวที่ริมฝีปากซึ่งจะทำให้ผิวหนังชั้นบนที่แห้งเป็นขุยค่อยๆ หลุดลอกออกไป พร้อมเผยผิวริมฝีปากที่สุขภาพดีกว่าขึ้นมา และอย่าลืมใช้ลิปบาล์มเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากที่เพิ่งเผยขึ้นมาใหม่ด้วย

น้ำเป็นปัจจัยสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งที่จะเติมความชุ่มชื้น สดชื่น ให้กับร่างกายรวมทั้งริมฝีปากเพราะฉะนั้นอย่าลืมดื่มน้ำอย่างพอเพียงเพื่อริมฝีปากที่อวบอิ่ม

ริมฝีปากที่ดูเปล่งปลั่งสุขภาพดียังมาจากการได้รับวิตามินและเกลือแร่จำเป็น โอเมก้า 3 และ วิตามินเอ ในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื้นได้ ลองปรึกษาเภสัชกรเพื่อรับคำแนะนำในการรับประทานวิตามินเสริม หรือหากได้รับจากการกินอาหารที่มีประโยชน์ได้ก็จะดีมาก

หลายคนมักสับสนในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับริมฝีปากทั้งสองตัวนี้ ลิปบาล์มถูกผลิตขึ้นมาเพื่อบำรุงให้ความชุ่มชื้น และรักษาอาการริมฝีปากแห้งแตกโดยเฉพาะ ในขณะที่ลิปกลอสจัดอยู่ในประเภทเครื่องสำอาง และมักทำหน้าที่เคลือบผิวริมฝีปากให้ดูมันวาวเท่านั้น ทั้งนี้ นอกจากลิปบาล์มจะให้ความรู้สึกเนียนนุ่มชุ่มชื่นกว่าเมื่อทาลงไปแล้ว มันยังมักถูกเติมด้วยสารบำรุงและวิตามินที่มีประโยชน์ต่อริมฝีปากมากกว่าอีกด้วย เพราะฉะนั้นหากกำลังมองหาตัวช่วยรับมือริมฝีปากแห้งแตก มอบหน้าที่นี้ให้กับลิปบาล์มดีกว่าค่ะ

หากคุณมักประสบปัญหาริมฝีปากแห้งแตกอยู่บ่อยครั้ง การทาลิปสติกให้สวยคงเป็นไปไม่ได้อย่างใจลองหาทางออกด้วยการเลือกใช้ลิปสติกที่มีคุณสมบัติบำรุงริมฝีปากแบบเข้มข้น หรือจะลองใช้ลิปบาล์มที่มีสีก็ได้ เท่านี้ริมฝีปากของคุณก็ดูมีสีสัน สวยได้รูป ทั้งยังดูชุ่มชื้นอิ่มเอิบไปพร้อมๆ กัน

อาหารที่กินเข้าไปเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญในการชี้ว่าคุณจะมีริมฝีปากที่สุขภาพดีได้หรือไม่ เมนูที่มีซัลเฟอร์สูงอย่าง ไข่ กระเทียม และ หน่อไม้ฝรั่ง จะช่วยให้ผิวพรรณรวมทั้งริมฝีปากดูสดชื่น เต่งตึง นอกจากนี้อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน เอ บี และ ซี ซึ่งพบมากในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ทั้งหลาย แครอท ผักใบเขียว โยเกิร์ตรสธรรมชาติ จะช่วยเรียกริมฝีปากที่สุขภาพดีกลับมาด้วย


7. พบแพทย์หากอาการปากแห้งแตกไม่ดีขึ้น


ปกติ 390 บาท

พิเศษลดเหลือ 290 บาท

สอบถามโทร 085-9083178 วราพร

วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556

วิธีดูแลริมฝีปากแห้งอย่างง่าย แบบได้ผล




สิ่งที่สำคัญที่สุดมักจะเป็นสิ่งที่ถูกมองข้ามมากที่สุด หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่าอะไรสำคัญ อะไรที่ถูกมองข้าม เชื่อว่าสาวๆ หลายๆ คนนั้นคงจะมัวยุ่งอยู่กับ ผิวพรรร หน้าตา เส้นผม จนลืมไปว่ามีอวัยวะที่สำคัญที่สุดแล้วบอบบางที่สุดอยู่กับตัว มัวแต่มองหาวิธีดูแลผิว ดูแลเส้นผม จนลืมมองหา วิธีดูแลริมฝีปากแห้ง ทราบไหมค่ะว่าปากนั้นเป็นจุดเด่นที่อยู่บนใบหน้าของเรา เพราะในขณะที่เวลาเราพูดๆ อยู่นั้นผู้ฟังเขาจะสังเกตที่ริมฝีปากเราทันที แล้วเมื่อริมฝีปากแห้งลอกและเป็นขุย อาจจะทำให้สาวๆ สูญเสียความมั่นใจไปเลยก็ได้นะค่ะ แต่วันนี้ได้เวลาที่สาวๆ จะต้องดูแลริมฝีปากบางๆ นั้นให้ดูสาวและอวบอิ่มกันได้แล้วนะค่ะ

อากาศแห้งทำให้เรียวปากขาดความชุ่มชื้นเมื่อเผชิญกับอากาศแห้งนานๆ เข้า ริมฝีปากก็เริ่มแตกวิธีที่จะช่วยได้คือกระตุ้นการผลัดผิวที่ริมฝีปากซึ่งจะทำให้ผิวหนังชั้นบนที่แห้งเป็นขุยค่อยๆ หลุดลอกออกไป พร้อมเผยผิวริมฝีปากที่สุขภาพดีกว่าขึ้นมา และอย่าลืมใช้ลิปบาล์มเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากที่เพิ่งเผยขึ้นมาใหม่ด้วย

น้ำเป็นปัจจัยสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งที่จะเติมความชุ่มชื้น สดชื่น ให้กับร่างกายรวมทั้งริมฝีปากเพราะฉะนั้นอย่าลืมดื่มน้ำอย่างพอเพียงเพื่อริมฝีปากที่อวบอิ่ม

ริมฝีปากที่ดูเปล่งปลั่งสุขภาพดียังมาจากการได้รับวิตามินและเกลือแร่จำเป็น โอเมก้า 3 และ วิตามินเอ ในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื้นได้ ลองปรึกษาเภสัชกรเพื่อรับคำแนะนำในการรับประทานวิตามินเสริม หรือหากได้รับจากการกินอาหารที่มีประโยชน์ได้ก็จะดีมาก


หลายคนมักสับสนในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับริมฝีปากทั้งสองตัวนี้ ลิปบาล์มถูกผลิตขึ้นมาเพื่อบำรุงให้ความชุ่มชื้น และรักษาอาการริมฝีปากแห้งแตกโดยเฉพาะ ในขณะที่ลิปกลอสจัดอยู่ในประเภทเครื่องสำอาง และมักทำหน้าที่เคลือบผิวริมฝีปากให้ดูมันวาวเท่านั้น ทั้งนี้ นอกจากลิปบาล์มจะให้ความรู้สึกเนียนนุ่มชุ่มชื่นกว่าเมื่อทาลงไปแล้ว มันยังมักถูกเติมด้วยสารบำรุงและวิตามินที่มีประโยชน์ต่อริมฝีปากมากกว่าอีกด้วย เพราะฉะนั้นหากกำลังมองหาตัวช่วยรับมือริมฝีปากแห้งแตก มอบหน้าที่นี้ให้กับลิปบาล์มดีกว่าค่ะ

หากคุณมักประสบปัญหาริมฝีปากแห้งแตกอยู่บ่อยครั้ง การทาลิปสติกให้สวยคงเป็นไปไม่ได้อย่างใจลองหาทางออกด้วยการเลือกใช้ลิปสติกที่มีคุณสมบัติบำรุงริมฝีปากแบบเข้มข้น หรือจะลองใช้ลิปบาล์มที่มีสีก็ได้ เท่านี้ริมฝีปากของคุณก็ดูมีสีสัน สวยได้รูป ทั้งยังดูชุ่มชื้นอิ่มเอิบไปพร้อมๆ กัน

อาหารที่กินเข้าไปเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญในการชี้ว่าคุณจะมีริมฝีปากที่สุขภาพดีได้หรือไม่ เมนูที่มีซัลเฟอร์สูงอย่าง ไข่ กระเทียม และ หน่อไม้ฝรั่ง จะช่วยให้ผิวพรรณรวมทั้งริมฝีปากดูสดชื่น เต่งตึง นอกจากนี้อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน เอ บี และ ซี ซึ่งพบมากในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ทั้งหลาย แครอท ผักใบเขียว โยเกิร์ตรสธรรมชาติ จะช่วยเรียกริมฝปากที่สุขภาพดีกลับมาด้วย




ปกติ 390 บาท

พิเศษลดเหลือ 290 บาท

สอบถามโทร 085-9083178 วราพร

วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2556

วิธีดูแลริมฝีปากแห้งให้กลับมาชุ่มชื่นชวนมอง





สิ่งที่สำคัญที่สุดมักจะเป็นสิ่งที่ถูกมองข้ามมากที่สุด หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่าอะไรสำคัญ อะไรที่ถูกมองข้าม เชื่อว่าสาวๆ หลายๆ คนนั้นคงจะมัวยุ่งอยู่กับ ผิวพรรร หน้าตา เส้นผม จนลืมไปว่ามีอวัยวะที่สำคัญที่สุดแล้วบอบบางที่สุดอยู่กับตัว มัวแต่มองหาวิธีดูแลผิว ดูแลเส้นผม จนลืมมองหา วิธีดูแลริมฝีปากแห้ง ทราบไหมค่ะว่าปากนั้นเป็นจุดเด่นที่อยู่บนใบหน้าของเรา เพราะในขณะที่เวลาเราพูดๆ อยู่นั้นผู้ฟังเขาจะสังเกตที่ริมฝีปากเราทันที แล้วเมื่อริมฝีปากแห้งลอกและเป็นขุย อาจจะทำให้สาวๆ สูญเสียความมั่นใจไปเลยก็ได้นะค่ะ แต่วันนี้ได้เวลาที่สาวๆ จะต้องดูแลริมฝีปากบางๆ นั้นให้ดูสาวและอวบอิ่มกันได้แล้วนะค่ะ

อากาศแห้งทำให้เรียวปากขาดความชุ่มชื้นเมื่อเผชิญกับอากาศแห้งนานๆ เข้า ริมฝีปากก็เริ่มแตกวิธีที่จะช่วยได้คือกระตุ้นการผลัดผิวที่ริมฝีปากซึ่งจะทำให้ผิวหนังชั้นบนที่แห้งเป็นขุยค่อยๆ หลุดลอกออกไป พร้อมเผยผิวริมฝีปากที่สุขภาพดีกว่าขึ้นมา และอย่าลืมใช้ลิปบาล์มเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากที่เพิ่งเผยขึ้นมาใหม่ด้วย

น้ำเป็นปัจจัยสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งที่จะเติมความชุ่มชื้น สดชื่น ให้กับร่างกายรวมทั้งริมฝีปากเพราะฉะนั้นอย่าลืมดื่มน้ำอย่างพอเพียงเพื่อริมฝีปากที่อวบอิ่ม

ริมฝีปากที่ดูเปล่งปลั่งสุขภาพดียังมาจากการได้รับวิตามินและเกลือแร่จำเป็น โอเมก้า 3 และ วิตามินเอ ในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื้นได้ ลองปรึกษาเภสัชกรเพื่อรับคำแนะนำในการรับประทานวิตามินเสริม หรือหากได้รับจากการกินอาหารที่มีประโยชน์ได้ก็จะดีมาก

หลายคนมักสับสนในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับริมฝีปากทั้งสองตัวนี้ ลิปบาล์มถูกผลิตขึ้นมาเพื่อบำรุงให้ความชุ่มชื้น และรักษาอาการริมฝีปากแห้งแตกโดยเฉพาะ ในขณะที่ลิปกลอสจัดอยู่ในประเภทเครื่องสำอาง และมักทำหน้าที่เคลือบผิวริมฝีปากให้ดูมันวาวเท่านั้น ทั้งนี้ นอกจากลิปบาล์มจะให้ความรู้สึกเนียนนุ่มชุ่มชื่นกว่าเมื่อทาลงไปแล้ว มันยังมักถูกเติมด้วยสารบำรุงและวิตามินที่มีประโยชน์ต่อริมฝีปากมากกว่าอีกด้วย เพราะฉะนั้นหากกำลังมองหาตัวช่วยรับมือริมฝีปากแห้งแตก มอบหน้าที่นี้ให้กับลิปบาล์มดีกว่าค่ะ

หากคุณมักประสบปัญหาริมฝีปากแห้งแตกอยู่บ่อยครั้ง การทาลิปสติกให้สวยคงเป็นไปไม่ได้อย่างใจลองหาทางออกด้วยการเลือกใช้ลิปสติกที่มีคุณสมบัติบำรุงริมฝีปากแบบเข้มข้น หรือจะลองใช้ลิปบาล์มที่มีสีก็ได้ เท่านี้ริมฝีปากของคุณก็ดูมีสีสัน สวยได้รูป ทั้งยังดูชุ่มชื้นอิ่มเอิบไปพร้อมๆ กัน

อาหารที่กินเข้าไปเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญในการชี้ว่าคุณจะมีริมฝีปากที่สุขภาพดีได้หรือไม่ เมนูที่มีซัลเฟอร์สูงอย่าง ไข่ กระเทียม และ หน่อไม้ฝรั่ง จะช่วยให้ผิวพรรณรวมทั้งริมฝีปากดูสดชื่น เต่งตึง นอกจากนี้อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน เอ บี และ ซี ซึ่งพบมากในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ทั้งหลาย แครอท ผักใบเขียว โยเกิร์ตรสธรรมชาติ จะช่วยเรียกริมฝีปากที่สุขภาพดีกลับมาด้วย

ปกติ 390 บาท

พิเศษลดเหลือ 290 บาท

สอบถามโทร 085-9083178 วราพร